top of page
ค้นหา

ดูไฮไลท์ฟุตบอล เยอรมนี 0–2 ฝรั่งเศส ล่าสุด

  • รูปภาพนักเขียน: anthony nomia
    anthony nomia
  • 9 มิ.ย.
  • ยาว 1 นาที

หลังจากต้องผิดหวังจากรอบรองชนะเลิศ ทีมชาติฝรั่งเศสยังมีอีกหนึ่งภารกิจสำคัญ นั่นคือการลงสนามพบกับเยอรมนีในเกมชิงอันดับ 3 ของศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก 2024/25 ซึ่งจะแข่งขันกันที่เมืองสตุ๊ตการ์ท สนามเหย้าของเจ้าภาพอินทรีเหล็ก ดูไฮไลท์ฟุตบอล เยอรมนี 0–2 ฝรั่งเศส เกมชิงที่ 3 อาจไม่มีถ้วยแชมป์เป็นเดิมพัน แต่ด้วยศักดิ์ศรีของสองชาติลูกหนังยักษ์ใหญ่ การพบกันครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่แมตช์ส่งท้ายธรรมดา แฟนบอลสามารถคาดหวังเกมที่เต็มไปด้วยเทคนิค ความเร็ว และการขับเคี่ยวที่ไม่มีใครยอมใคร

ดูไฮไลท์ฟุตบอล เยอรมนี 0–2 ฝรั่งเศส

ในการแข่งขันรอบเพลย์ออฟชิงอันดับที่ 3 ของยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ฤดูกาล 2024/25 ทีมชาติฝรั่งเศสโชว์ความเฉียบขาดด้วยการเอาชนะเจ้าถิ่น เยอรมนี ไปแบบไม่มีข้อกังขา 2-0 โดยได้สองประตูสำคัญจากสองสตาร์ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และ มิชาเอล โอลิเซ่ เกมนี้ฝรั่งเศสครองเกมได้เหนือกว่าในหลายจังหวะ ก่อนที่เอ็มบัปเป้จะเบิกสกอร์ให้ทีมออกนำอย่างสวยงามในครึ่งแรก จากนั้น โอลิเซ่ ก็มาย้ำชัยด้วยลูกยิงเฉียบคมในครึ่งหลัง ปิดฉากการชิงอันดับ 3 อย่างสมบูรณ์แบบ แม้จะไม่ได้เข้าชิงชนะเลิศ แต่ฟอร์มการเล่นของฝรั่งเศสในเกมนี้ก็แสดงให้เห็นถึงพลังของทีมและศักยภาพของผู้เล่นดาวรุ่งที่พร้อมสืบทอดความยิ่งใหญ่บนเวทียุโรปต่อไป

ฝรั่งเศส–เยอรมนี ชวดชิง! เตรียมลุยศึกชิงที่ 3 หลังพ่ายคู่แข่งดุเดือด

ความฝันในการคว้าแชมป์ยูฟ่า เนชั่นส์ลีกของฝรั่งเศสและเยอรมนีต้องจบลงในรอบรองชนะเลิศ หลังทั้งสองทีมพ่ายให้กับคู่แข่งแบบสุดมัน โดยฝรั่งเศสเปิดเกมบุกแลกกับสเปนอย่างเร้าใจ ก่อนพ่ายไปอย่างเฉียดฉิว 5-4 ส่วนเยอรมนีต้องพบกับความพ่ายแพ้ต่อโปรตุเกส ที่มีคริสเตียโน โรนัลโดนำทัพยิงประตูอย่างเด็ดขาด

แม้จะหลุดโอกาสชิงแชมป์ แต่การพบกันของฝรั่งเศสกับเยอรมนีในเกมชิงอันดับ 3 ยังคงเป็นแมตช์ที่แฟนบอลทั่วโลกจับตามอง เพราะเป็นการเจอกันระหว่างสองชาติมหาอำนาจลูกหนัง ที่เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมารวมกันถึง 6 ครั้ง และต่างต้องการจบรายการนี้ด้วยชัยชนะเพื่อศักดิ์ศรี

VAR พลิกสถานการณ์! ฝรั่งเศสรอดจุดโทษ – ไมญ็องโชว์เซฟสุดเหนียว

ในเกมระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนี ไมค์ ไมญ็อง นายด่านมือหนึ่งของทัพตราไก่ ซึ่งกำลังตกเป็นข่าวกับสโมสรยักษ์ใหญ่อย่างเชลซี โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการเซฟลูกยิง 2 ครั้งในครึ่งแรก โดยหนึ่งในนั้นเป็นการป้องกันลูกยิงจากฟลอเรียน เวิร์ตซ์ เพลย์เมกเกอร์ฟอร์มแรงของเยอรมนีที่ตกเป็นเป้าหมายของลิเวอร์พูล ซึ่งอีกจังหวะหนึ่งบอลกระแทกเสาไปอย่างน่าเสียดาย

สถานการณ์เกือบพลิกเมื่อเยอรมนีได้จุดโทษจากจังหวะที่คาริม อเดเยมี ถูกลูกัส เอร์นันเดซ เข้าปะทะจนล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษในเบื้องต้น แต่หลังการตรวจสอบจาก VAR คำตัดสินถูกยกเลิก เพราะรีเพลย์ชี้ชัดว่าแทบไม่มีการสัมผัสกันจริงจากเอร์นันเดซ

เอ็มบัปเป้ แก้ตัวสำเร็จ! พาฝรั่งเศสออกนำก่อนพักครึ่ง

ครึ่งแรกของศึกระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนีเต็มไปด้วยจังหวะเร้าใจและการปะทะทางเทคนิค โดยเฉพาะทางฝั่งทีมตราไก่ที่มีโอกาสทองจากคีลิยัน เอ็มบัปเป้ แต่เจ้าตัวดันซัดพลาดไปในจังหวะแรก

อย่างไรก็ดี ดาวยิงเบอร์ 9 จากเรอัล มาดริด ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวังในโอกาสถัดมา เมื่อออเรเลียง ชูอาเมนี่ จ่ายบอลข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษได้อย่างแม่นยำ เอ็มบัปเป้รับบอลด้วยความนิ่ง ก่อนจะยิงเรียดด้วยเท้าขวาเสียบมุมผ่านมือแทร์ สเตเก้น แบบหมดสิทธิ์ป้องกัน ลูกยิงนี้กลายเป็นประตูเบิกสกอร์ให้ฝรั่งเศสขึ้นนำ 1-0 ก่อนหมดครึ่งแรก และเป็นเครื่องยืนยันว่าเอ็มบัปเป้ยังคงเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่แท้จริงของทัพน้ำเงิน

VAR ไม่ช่วย! เยอรมนีโดนปฏิเสธประตู – ตูรามพลาดโอกาสฝรั่งเศสทิ้งห่าง

ไฮไลท์ฟุตบอล เร็วที่สุด ช่วงต้นครึ่งหลังของเกมที่ดวลกันระหว่างเยอรมนีกับฝรั่งเศสมีดราม่าอีกครั้ง เมื่อทีมอินทรีเหล็กเกือบได้ประตูตีเสมอ แต่สุดท้ายต้องผิดหวัง เมื่อนิโคลาส ฟึลล์ครูก ส่งบอลเข้าประตูไปแล้ว ทว่าโดนผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ย้อนหลัง เพราะจังหวะแย่งบอลกับอาเดรียง ราบิโอต์ ถูกมองว่าใช้แรงมากเกินไป

หลังจากนั้นไม่นาน ฝรั่งเศสก็มีโอกาสทองในการหนีห่างเป็น 2-0 เมื่อมาร์คุส ตูราม ได้หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ มาร์ก-อันเดร แทร์ สเตเกน นายด่านเยอรมนี โชว์ปฏิกิริยาเร็ว ปัดบอลออกข้างเสาอย่างสุดยอด เซฟชีวิตทีมไว้ได้ในจังหวะสำคัญ

แทร์ สเตเกนช่วยทีมสุดฝีมือ แต่ฝรั่งเศสได้ประตูปิดท้ายจากโอลิเซ่

ฟอร์มการเซฟที่น่าประทับใจของมาร์ก-อันเดร แทร์ สเตเกน ยังคงต่อเนื่องในเกมนี้ เมื่อเขาปฏิเสธลูกยิงของมาร์คุส ตูรามและคีลิยัน เอ็มบัปเป้ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการเซฟลูกยิงจากเอ็มบัปเป้ที่ถือเป็นจังหวะสำคัญของเกม แต่สุดท้าย แทร์ สเตเกนก็ต้องพ่ายให้กับความเร็วและความเด็ดขาดของไมเคิล โอลิเซ่ ที่ทำประตูปิดเกมให้ฝรั่งเศสในช่วง 6 นาทีสุดท้าย หลังจากการสวนกลับอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ฝรั่งเศสได้เปรียบและคว้าชัยชนะในเกมนี้ไปอย่างสมเกียรติ

ผลการแข่งขัน 2-0 ในช่วงท้ายเกมแสดงให้เห็นว่า ฝรั่งเศสคือทีมที่คู่ควรกับชัยชนะครั้งนี้ ด้วยการเล่นที่มั่นใจและแข็งแกร่งตลอดทั้งเกม สิ่งที่ทำให้ความสำเร็จนี้มีความหมายยิ่งขึ้นคือการที่ฝรั่งเศสมีดาวรุ่งฝีเท้าดีมากมายในทีมชุดนี้ ซึ่งถือเป็นทรัพยากรสำคัญที่ทำให้พวกเขามีความหวังและเป้าหมายใหญ่ในอนาคตที่จะสร้างความสำเร็จครั้งใหม่ในวงการฟุตบอลโลกต่อไป

 
 
 

Comments


© 2035 by Rei Hiromi. Powered and secured by Wix

bottom of page